แต่ประเพณึการให้เงินใส่ซองแดงในวันส่งท้ายปีเก่า ชาวแต่จิ๋ว เรียกว่า แต๊ะเอีย โดยคำว่า แต๊ะมากฐานเสียงของคำว่า แตะ แปลว่า ทับ ส่วน เอีย หรือ อี ออ มากจากคำว่า โต๋วเอีย 肚腰 ภาษาไทยว่า เอี๊ยม หรือ เต๋าเอี๊ยม แปลว่าแผ่นผ้าสำหรับคาดหน้าอกเด็กๆ ฉะนั้น แต๊ะเอีย จึงหมายถึงเงินที่วางทับบนเอี๊ยมของเด็กๆ เสมือน หนึ่งการให้ศีลให้พรจากผู้ใหญ่ หากเป็นจีนแบบสากล(จีนกลางจะเรียกว่า เอียซุ่นเฉียน 压岁钱 โดยคำว่า เอีย หรือ อา 压 แต้จิ๋วอ่านว่า เอียบมี ความหมายว่า
กดหรือทับเช่นกันเพียงแต่จีนแต้จิ๋วไม่ใช้คำนี้ในธรรมเนียมการให้ซองแดง แต่ไปใช้คำว่า แตะ ซึ่งเป็นภาษาพูด โดยในพจนานุกรมแต้จิ๋วของอาจารย์ หลินหลุน 林伦伦 ยังไม่ได้บัญญัติศัพท์บ้าน
วันส่งท้ายปีเก่าของจีนเรียกเป็นสากลว่า ฉูซี 除夕 ถ้าเป็นสำเนียงแต้จิ๋ว ก็ต้องอ่านว่า ตื่อเส็ก แต่จีนแต้จิ้วในเมืองไทยไม่เห็นมีใครเรียกเช่นนั้นหากแต่เรียก หยิเก้า หรือ ซาจั๊บทั้งยังเรียกกันติดปากว่า ก๊วยนี้ 过年 เสียส่วนใหญ่ เพราะ ก๊วยนี แปลตรงๆว่า ข้ามปีจึงสอดคล้องกับความหมายการก้าวข้ามปีส่วนรุ่งขึ้น ซึ่งเป็นวันขึ้นปีใหม่จริงๆมักเรียกว่า ซิวอิก 初一
หมายถึง เจียเหวะชิวอิก正月初一 หรือวันที่หนึ่งเดือนอ้ายของชาวจีน
ช่วงต่อระหว่างนาทีสุดท้ายของปีเก่ากับนาทีของปีใหม่จีน ชาวจีนแต่เดิมไม่มีประเพณีการนับถอยหลังหากแต่พิธีการไหว้
ไฉ่สิ่งเอีย 财神爷 หรือเทพเจ้าแห่งโชคลาภ โดยผู้จะไหว้ต้องติดตาม ข่าวจากผู้รู้ ว่าแต่ละปี เทพเจ้าจะเสด็จมาทางทิศไหนและเวลาอะไร คนจีนแบ่งเวลา 24ชั่วโมงของแต่ละวันเป็น 12 ชั่วยาม หรือ 12 ฤกษ์ ยามแต่คนจีนชอบอยู่หน้าไม่ชอบ
อยู่หลัง ฉะนั้น ฤกษ์แรกของชาวจีนจึงไม่ใช่หลังเที่ยงคืนถึงตีสองจึงเรื่มตั้งแต่วินาทีแรกหลัง 23.00 น.ของวันท้ายปีเก่าไป
จนถึง 1.00 น.ของวันใหม่ ส่วนฤกษ์ยามที่สองจึงเริ่มตั้งแต่วินาทีแรกหลังตีหนึ่งจนกระทั้งถึงตีสาม หรือ 3.00 น. เทพเจ้าแห่งโชคลาภท่านไม่โอ้เอ้ท่านมักเสด็จมาฤกษ์ที่หนึ่งหรือไม่ก็ฤกษ์ที่สองของทุกปี
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น